ณ ที่หอพักแห่งหนึ่ง
สำหรับการเป็นนักศึกษาแล้วเมื่อมาใช้ชีวิตที่หอพัก ทุกสิ่งทุกอย่างอิสระเสรี จนเราลืมนึกไปเลยว่าอิสระมากเกินไปมันทำให้ตัวเราเองขาดการควบคุม
ขาดการอยู่ในกฏเกณฑ์ ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบวินัย ไม่มีการวางแผนที่จะดำเนินชีวิต คิดเพียงว่า เช้าตื่นไปเรียน เย็นกลับมา เที่ยวเล่น และกลับมาหอ และไม่มีการทบทวนการบ้าน อ่านหนังสือใดๆทั้งนั้น จนกระทั่ง เมื่อจะถึงเวลาสอบ ก่อนสอบก็จะอ่านๆๆ แล้วก็ไม่เข้าใจ จากความไม่เข้าใจก็เก็บไว้ เก็บไว้ เก็บไว้ และเก็บไว้ บอกว่าเดี่ยวค่อยถามอาจารย์ เดี่ยวค่อยถาม แล้วเดี๋ยวก็จะสอบในวันถัดมา ก็ยังไม่ได้รู้แจ้งว่าสรุปที่สงสัยนั้นจะได้คำตอบเมื่อไร และจะทำข้อสอบได้อย่างไร นั่นคือความจริง ที่ข้าพเจ้าเคยทำ ขอใช้คำว่าเคยทำ ซึ่งข้าพเจ้า คิดย้อนกลับไปแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายเวลาที่ว่างป่าวมาก
นั่นคือ การใช้เวลา ในการทำคุณประโยชน์ ออกกำลังกาย หรือแม้จะการหารายได้พิเศษระหว่างเรียน ข้าพเจ้าก็มีโอกาสที่ดีมากๆ ที่ได้รับโอกาสในการฟัง เพื่อจะหารายได้พิเศษระหว่างเรียนที่ไม่กระทบต่อการเรียน อีกทั้งยังมีเพื่อนๆน้องๆนักศึกษาคณะต่างๆร่วมทำกิจกรรมนี้ด้วยกัน ทั้งคณะเภสัชศาสตร์ วิศวะกรรมศาสตร์ บริหาร ซึ่งทุกๆคนที่ได้เข้ามาในกิจกรรมนี้ ต่างก็มีจุดมุ่งหมายในครั้งแรกคือ หารายได้พิเศษระหว่างเรียน และก็มีเพื่อนที่มีรายได้ระหว่างเรียนมีรายได้จากกิจกรรมนี้หลักหมื่นกันแล้วคะข้าพเจ้าจึงมองย้อนกลับไปว่า ทำไมถึงมีเวลาทำงาน เอาเวลา แบ่งเวลาในการทำงานกับการเรียนได้อย่างไร ข้าพเจ้ารู้สึกในครั้งแรกที่ได้ยิน จึงมีความรุ้สึกประทับใจ ว่าเพื่อนๆน้องๆ ที่เข้ามาเรียน ทุกๆๆคนจะมีเวลาเท่ากันหมด คือ 24 ซม. และเรียนก็ โดยประมาณ 8 ซม./วัน เท่ากัน แต่ก็อ่านหนังสือ แล้วแต่ใครจะแบ่งเวลา และยิ่งแบ่งเวลามาทำงานหารายได้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านด้วย ข้าพเจ้าจึงคิดว่า เพื่อนๆน้องๆ เขาก็เป็นคน มีมือมีเท้า เท่ากัน ไม่เห็นมีอะไรที่พิเศษมากไปเกินกว่าเรามี แล้วทำไม เขาจึงแบ่งเวลาและมีความสามารถในการหารายได้เดือนละเป็นหมื่นได้ เขาทำกันอย่างไร
จนกระทั่งได้มีการตัดสินใจ ครั้งยิ่งใหญ่คือเข้าไปฟังรายละเอียดว่าทำงานอะไร ทำอย่างไร นั่นทำให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจ และเชื่อในตัวเองว่าข้าพเจ้าจะต้องทำได้ ซึ่งความสามารถต่างๆ ข้าพเจ้าก็จะเรียน และพยายามทำตามแบบอย่างที่ดีที่เคยทำมาในการทำงาน ข้าพเจ้าจึงได้มีความมั่นใจว่า ข้าพเจ้าจะทำงานนี้ได้ดีและ ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าสามารถที่จะพัฒนาตัวเอง เพื่อให้สามารถ ดำเนินการในการทำงานหรือในการประพฤติตนเอง ให้มีคุณประโยชน์ มากว่าที่ผ่านมา คิดเสียดายเวลาที่ปล่อยว่างไร้ประโยชน์มากมายที่ผ่านมา ก็จะย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเริ่มตัดสินใจแน่วแน่ว่า ข้าพเจ้าจะต้องทำงานไปด้วยระหว่างเรียนจากธุรกิจนี้ และงานนี้ไม่ใช่แค่งาน แค่ต้องการเงิน มันไม่ใช่ มันมีบางอย่างที่ไม่สามารถตีค่า ตีราคาออกมาเป็นเงินได้ ซึ่งข้าพเจ้าได้รับมา นั่นคือ เพื่อน พี่ น้อง และ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา ในชีวิตที่ประสบช่วยกัน นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในการทำงานระหว่างเรียน ขอขอบพระคุณผู้มีพระคุณทุกๆๆท่าน
ข้าพเจ้ามั่นใจว่า แม้วันนี้ยังเป็นแค่เมล็ดผลที่ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นพันธ์ที่ดีได้ ไม่มีทีท่าที่จะเป็นต้นกล้าได้ แต่สักวันหนึ่งเมล็ดพันธ์นี้จะเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่มีผุ้คนหรือสัตว์ต่างๆ ได้มาพึงพาอาศัยได้อย่างแน่นอน และจะเป็นต้นไมใหญ่ที่ดีให้ได้
วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552
พระราชบัญญิติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ร์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทำความรู้จักกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
“พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550” ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 นับได้ว่าเป็นที่จับตามองและมีความสำคัญอย่างมากในทุกวงการ เพราะปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ภาครัฐ เอกชน คนทำงาน นิสิต นักศึกษา ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับพ.ร.บ. ฉบับนี้ และเตรียมพร้อมรับมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ และให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยของเราเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ หมายเหตุ ข้อมูลถามตอบนี้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดและเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ การนำไปใช้และอ้างอิงใดๆจึงควรพิจารณาประกอบพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดอีกครั้ง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. ถาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีผลบังคับใช้เมื่อใด
2. ถาม ทำไมถึงต้องมีพ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
3. ถาม: แล้วแบบไหนจึงจะเรียกว่าเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. ฉบับนี้
การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น การทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ การกระทำเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยปกติสุข การจำหน่ายชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำความผิดอื่น ผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิด การตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของบุคคล เหล่านี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. ฉบับนี้ 4. ถาม: ผู้ให้บริการที่ระบุใน พ.ร.บ. นี้ คือบุคคลใดบ้าง
5. ถาม: หากคุณเป็นผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลอะไรบ้าง และจะต้องเก็บข้อมูลเหล่านั้นนานแค่ไหน
6. ถาม: หากคุณเป็นผู้ให้บริการแต่ไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้บริการไว้เลย ถือว่าทำผิดพ.ร.บ.หรือไม่
7. ถาม: ผู้ให้บริการที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.นี้ จะต้องเริ่มเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการเมื่อใด
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8. ถาม: บทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิดกฎหมายภายใต้ พ.ร.บ.นี้
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9. ถาม: ในส่วนของพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการอย่างไร
การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ต้องขออนุญาตศาล การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องขออนุญาตศาล (พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจ ตามที่ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตแล้วให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ นั้นไว้เป็นหลักฐาน)
11. ถาม: ถ้าหากคุณเป็นผู้เสียหายจะต้องทำอย่างไร
12. ถาม: หากต้องการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ไหน และมีหน่วยงานใดบ้างที่ดูแลรับผิดชอบ
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อ้างอิง
|
วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552
การจะเป็นผู้ประกอบการด้าน IT ควรจะพิจารณาหรือต้องทำอะไรบ้าง
การจะเป็นผู้ประกอบการด้าน IT ควรจะพิจารณาหรือต้องทำอะไรบ้าง
-เรามีการวางแผน วิสัยทัศน์ ของธุรกิจอย่างไร มีวัตถุประสงค์อย่างไร มีการวางแผนในอนาคตอย่างไรบ้าง
-เราต้องรู้ว่าเราทำธุระกิจอะไร กลุ่มตลาด กลุ่มลูกค้าเป็นแบบไหน และสินค้าที่ตรงความต้องการในลักษณะที่แปลกแวกแนวสร้างสรรค์สังคม ไม่เลียนแบบใคร ลูกค้าพึงพอใจ
-เราต้องรู้ว่าธุรกิจที่เราทำ มีระบบการบริหารลักษณะอย่างไร มีพนักงานมากน้อยเหมาะกับการบริการแบบใหน
-คุณลักษณะที่จะทำให้ธุรกิจเราประสบความสำเร็จจะมีลักษณะอย่างไร
-เรากล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสียมากน้อยเพียงใด เสี่ยงมากได้กำไรมาก และก็ขาดทุนมากเช่นกัน เสี่ยงน้อย ลงทุนน้อย ได้กำไรน้อย ประสบความสำเร็จช้า เราจะเป็นอย่างไร เรามองธุรกิจเราได้จากการกล้าที่จะเสี่ยง หรือการลงทุนกับธุรกิจ จากความเสี่ยง เมื่อผ่านพ้นไป ก็จะเป็นโอกาส นั่นคือ เราจะมีธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับ ประสบความสำเร็จได้เรามองหรือคาดหวังเร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับเราเป็นผู้ตัดสินใจ ยิ่งตัดสินใจเร็ว ก็ยิ่งสำเร็จเร็ว
-ในการทำธุรกิจ หรือจะเป็นผุ้ประกอบการ ต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ คิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สังคมรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
-ธุรกิจจะสำเร็จได้ ก็จากคนรอบข้าง คนใกล้ชิด สภาพแวดล้อม สังคม กลุ่มคน นั้นเป็นส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้เราได้ประสบความสำเร็จได้เร็ว เพราะการได้รับการสนับสนุนจากผู้มีประสบการณ์ และจากคนใกล้ชิดให้การสนับสนุนนั่นเอง
-ผู้ประกอบการที่ดีมีความอดทน ไม่ย้อท้อ แม้มีอุปสรรค จะทำให้วิกฤตนั้นเป็นโอกาสได้เสมอ และคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจให้สำเร็จเร็ว
-รู้จักที่จะใช้ช่วงเวลาให้เกิดประโยชน์ ช่วงไหนควรจะเริ่มทำโปรโมชั่น หรือว่าช่วงเวลาที่จะลงทุนเพิ่ม
-รู้จักหลักการค้าต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร การค้าระหว่างประเทศ การค้าภายในประเทศ ต้องมองให้ไกลมองถึงอนาคตสินค้าเราจะกระจายไปทั่วโลกเราจะมีสินค้าหรือบริการที่ประทับใจลูกค้าทั่วโลกการบริการจะเป็นลักษณะใดเห็นอนาคตว่าเราจะเป็นที่รุ้จักของคนทั้งโลก
-มั่นใจตัวเองว่าเราทำได้ทุกๆสิ่งเราเป็นคนวางแผน ถ้าเราวางแผนธุรกิจดีคิดรอบคอบ มองการณ์ไกล มั่นใจว่าเราประสบความสำเร็จจากการเป็นผู้ประกอบการได้เช่นคนอื่นๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)